คุณสมบัติของแกลบดิบ มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับฟาง
- ข้อเสียของแกลบดิบ มีธาตุชิส์กอนที่ยังไม่ย่อยสลาย ซึ่งจะเป็นตัวดึงก๊าซออกซิเจนและไนโตรเจน ที่มีอยู่ในอากาศไปใช้ในการย่อยสลาย ซึ่งก็คือการแย่งอาหารจากต้นพืชผักของเรานั่นเอง
- มีแร่ธาตุโปตัสเซียมและแคลเซียม
- มีรูมากมายซึ่งจะเป็นที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์
- ทำให้คลุมดินหรือนำไปผสมกับอินทรีย์วัตถุอย่างอื่น ช่วยลดความร้อนที่เกิดขึ้นเนื่องจากผ่านการย่อยสลาย
ประโยชน์ของฟางข้าว
- เป็นหัวปุ๋ยชั้นดี
- ช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ดิน
- ปรับโครงสร้างของดินที่เป็นกรด-ด่าง ให้มีความสมดุลลงตัวพอดี
- เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่างๆ เช่น ไส้เดือน แมลง และจุลินทรีย์
- เมื่อนำไปคลุมดิน ทำให้ดินร่วนซุย โดยไม่ต้องพรวนดิน
- เมื่อนำไปคลุมดิน วัชพืชหรือหญ้าต่างๆจะไม่เกิดขึ้น
- ทำให้เกิดเห็ดฟางตามธรรมชาติ
ประโยชน์ของพืชตระกูลถั่ว
- ให้แร่ธาตุไนโตรเจน ซึ่งช่วยส่งเสรมการเจริญเติบโตของใบและลำต้น
- ให้ร่มเงาแก่พืชชนิดอื่น
- ช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของแมลงและหนอนในพืชผักเป็นอย่างดี
- เป็นอาหารชั้นดีของมนุษย์
ประโยชน์ของงา
- ให้แร่ธาตุโปแตสเซียมและแคลเซียม
- ใบ-ลำต้น และผล เมื่อย่อยสลายเป็นปุ๋ยแล้ว ช่วยป้องกันโรคใบด่าง-ใบหงิกงอ
- มีแคลเซียมมากกว่าผักทุกชนิด 40 เท่า ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
- มีวิตามิน E ทำให้แก่ช้า, มีธาตุเหล็กช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงและวิตามินตัวอื่นอีกมากมาย
- ปุ๋ยเคมี เป็นปุ๋ยที่ละลายน้ำได้ดี และพืชสามารถนำไปใช้ได้ทันที แต่ปุ๋ยเคมีสามารถให้สารที่พืชต้องการได้จำกัดเพียง 3 ตัว คือ ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) โปแตสเซียม (K)
- จุดอ่อนของปุ๋ยเคมี จะส่งผลให้สัตว์เล็กๆที่อยู่ในดินตาย ระยะเวลาที่ปุ๋ยเคมีจะมีคุณค่าต่อพืชผักค่อนข้างสั้น ปุ๋ยเคมี 4 ส่วนที่เราหว่านลงไปในดิน พืชผักจะมีโอกาสได้รับแร่ธาตุเพียง ๑ ส่วน อีก 3 ส่วน จะกลายเป็นสารพิษตกค้างอยู่ในดิน ผลที่ตามมาคือ ดินจะเป็นกรดแข็ง ปลูกพืชอะไรก็จะไม่เจริญเติบโต
ขี้เถ้าแกลบ
- ขี้เถ้าแกลบถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการเผาไหม้ของแกลบมีลักษณะหลายสีขึ้นอยู่กับกระบวนการเผา แบ่งเป็น 3 ชนิด คือ
- ขี้เถ้าแกลบเทา เป็นขี้เถ้าแกลบที่มีลักษณะสีเทา เนื้อขี้เถ้าแกลบแข็ง และคงรูปมากกว่าแกลบชนิดอื่น แต่จะแตกละเอียดหากได้รับแรงกดบีบ เป็นแกลบที่ได้จากการเผาที่อุณหภูมิไม่เกิน 600 องศาเซลเซียส ในสภาวะที่มีออกซิเจนไม่เพียงพอทำให้การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ ขณะเผาไหม้จะไม่เกิดเปลวไฟ
แกลบเทา
- ขี้เถ้าแกลบดำ เป็นขี้เถ้าแกลบที่มีลักษณะสีดำ เนื้อขี้เถ้ามีการคงรูปของแกลบบางส่วน เนื้อแกลบแข็งและเปราะง่านกว่าแกลบสีเทา แต่จะแตกละเอียดหากได้รับแรงกดบีบ เป็นแกลบที่ได้จากการเผาอย่างต่อเนื่องที่อุณหภูมิไม่เกิน 1200 องศาเซลเซียส ในสภาวะที่มีออกซิเจนไม่เพียงพอทำให้การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ โดยไม่เกิดเปลวไฟขณะเผาไหม้
แกลบดำ
- ขี้เถ้าแกลบขาว เป็นขี้เถ้าแกลบที่มีลักษณะสีขาว เนื้อขี้เถ้าแกลบแตกหักเป็นผงขนาดเล็ก เป็นแกลบที่ได้จากการเผาอย่างต่อเนื่องที่อุณหภูมิสูง ภายใต้สภาวะออกซิเจนที่มีเกินพอทำให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ โดยส่วนมากมักจะเกิดเปลวไฟขณะเผาไหม้หากเผาในที่โล่งที่มีอากาศกระจายสู่พื้นผิวขณะเผาไหม้ที่เพียงพอ นอกจากการเผาที่อุณหภูมิสูงแล้วยังสามารถเผาได้จากแกลบดำที่อุณหภูมิต่ำอย่างต่อเนื่องได้อีกวิธี แกลบชนิดนี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์มากในอุตสาหกรรมเนื่องจากองค์ประกอบส่วนมากจะเป็นซิลิกา
แกลบขาว
- เมื่อแกลบเผาไหม้จะทำให้เกิดเถ้าร้อยละ 13-30 ที่ประกอบด้วยซิลิกาไดออกไซด์ (SiO2) ประมาณร้อยละ 85-97 ส่วนอื่นจะประกอบด้วยแร่ธาตุต่างๆ เช่น K2O 2.3%, MgO 0.5%, Al2O 0.4%, CaO 0.4%, Fe2O3 0.2% และ Na2O 0.1%
ประโยชน์ของขี้เถ้าแกลบ
- ขี้เถ้าแกลบดำ
- นำมาเป็นวัสดุปรับปรุงดินเพื่อช่วยเพิ่มความร่วนซุย เพิ่มแร่ธาตุ ดินอุ้มน้ำได้ดี รวมดึงนิยมนำมาเป็นวัสดุปลูกผสมกับดินสำหรับการปลูกพืชในกระถาง
- ใช้เป็นตัวดูดซับในกระบวนการบำบัดน้ำเสีย บำบัดก๊าซพิษสำหรับดูดซับสารมลพิษต่างๆ หรือที่เรียกว่าถ่านกัมมันต์
- แกลบเทา
- นิยมนำมาเป็นวัสดุปรับปรุงดิน และผสมดินเป็นวัสดุปลูกสำหรับการปลูกพืชในกระถาง
- แกลบขาว
- ใช้เป็นวัตถุดิบการการผลิตซิลิกา
- ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตแก้ว ผลิตภัณฑ์จากแก้ว
- ใช้เป็นส่วนผสมของอิฐก่อสร้าง เนื่องจากสามารถทนต่อความร้อนได้ดีมากกว่า 1000 องศาเซลเซียส
- ใช้เป็นส่วนผสมของการผลิตปูนซีเมนต์
- ใช้เป็นวัสดุปรับปรุงดิน
- วิธีการเผาแกลบดำ
- ขุดหลุมเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสหรือวงกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร สูง 50 ซม. ตามปริมาณการเผา หรืออาจก่ออิฐขึ้นสูงล้อมรอบ
- ตั้งฐานก่อกองไฟตรงกลางจนไฟลุกไหม้เป็นถ่านแดง
- นำถังน้ำมันเจาะก้นที่ไม่ใช้แล้วหรือท่อโลหะวางครอบกองไฟ
- นำแกลบเทกองรอบถังหรือท่อโลหะที่ครอบกองไฟให้ท่วมสูงตามระดับของบ่อ
- หลังจากปฏิบัติตามวิธีข้างต้น แกลบจะเริ่มเผาไหม้อย่างช้าโดยไม่ลุกเป็นเปลวไฟจนแกลบบริเวณด้านนอกมีลักษณะไหม้ดำทั้งหมด
- ทำการเกลี่ย และฉีดพรมด้วยน้ำจนไฟดับสนิท และแกลบเย็นตัว
- การเผาแกลบดำ
- ทั้งนี้ ขณะเผาควรระวังในเรื่องเปลวไฟที่อาจเกิดขึ้น เพราะหากเกิดเปลวไฟจะทำให้แกลบเผาไหม้สมบูรณ์กลายเป็นขี้เถ้าขาว
- สำหรับการเผาแกลบขาวอาจใช้วิธีในลักษณะเตาในลักษณะเดียวกัน แต่อาจต้องต่อท่อเพื่อให้อากาศหรือคอยเกลี่ยให้แกลบมีการลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น