วิวัฒนาการของวงการมะเดื่อฝรั่งในประเทศไทยตอนที่#1

ผมขออนุญาตนำบทความนี้มาโพสต่อบน blogger ของผมนะครับ ผมไม่รู้ว่าเจ้าของบทความจริงๆเป็นใคร เอาเป็นว่าผมเอาบทความนี้จากคนที่โพสในเฟสชื่อคุณ Shogun Shin Thongpawa 





Figs story ตอนที่1
#เคยมีคนกล่าวไว้ว่า ปลูกมะเดื่อฝรั่งได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด
หลังจากเริ่มปลูกมะเดื่อฝรั่ง เมื่อมีกลุ่มมะเดื่อฝรั่งในเฟชบุ๊คเกิดขึ้น ช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้น หลายๆคนได้รู้จักกัน คบหาเป็นเพื่อนเป็นมิตรสหายกัน มีการแบ่งปันแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ วิธีการ ตลอดจนแลกเปลี่ยนสายพัน์ที่ตอนนี้มีอยู่อย่างจำกัด ต่อมาก็เริ่มมีคนเสาะหาสายพันธ์จากต่างประเทศเข้ามาขาย มีทั้งกิ่งสดที่ตัดส่งมาขาย มีการสั่งกิ่งตอนจากต่างประเทศเข้ามาขาย จนมาถึงการนำเข้าไม้ล้างรากจากต่างประเทศเข้ามา ทั้งจากทางจีน ญี่ปุ่น ยุโรป อเมริกา เหล่าคนปลูกมะเดื่อฝรั่งก็เริ่มจะมีความรู้มากขึ้น หลายๆสายพันธ์ติดผล บางสายพันธ์ร่วง หลายๆสายพัน์สุก มีทั้ง ลูกเล็กใหญ่ ถูกใจและผิดหวัง ซึ่งก็เป็นธรรมดาของช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ ลองผิดลองถูก เมื่อมีคนเยอะขึ้น การจับตัวกันของสมาชิก รวมทั้งบริบททางสังคมของคนปลูกมะเดื่อฝรั่งก็มีการเปลี่ยนไปบ้างตามการเวลา บ้างสนิทชิดเชื้อกันมากขึ้น บ้างทะเลาะกันหมางเมิงกัน บ้างซดเกาเหลากลายเป็นประเด็นดราม่าให้ขาเผือกได้มาปูเสื่อรอชม ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของสังคมมนุษย์ หาใช่เรื่องเลวร้ายจนรับไม่ได้ เพราะสังคมใหนๆ วงการใดๆก็ล้วนแต่มีเรื่องแบบนี้

สำหรับผมการได้มารู้จัก ได้ปลูกมะเดื่อฝรั่ง เป็นอะไรที่มากกว่าแค่การปลูกต้นไม้ แต่ทำให้ได้รู้จักผู้คนที่ชอบปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้น ทั้งที่ถ้ามัวปลูกผักขุดดินอยู่แถวบ้าน ทั้งชีวิตนี้ก็คงจะไม่ได้รู้จักกับเพื่อนๆพี่ๆหลายๆคน (ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณอินเตอร์เนตและโลกโซเชี่ยลที่ย่อโลกกว้างใบนี้ให้แคบลง)แต่ก็เป็นธรรมดา เมื่อมีมิตรก็ต้องมีความไม่เป็นมิตรเกิดขึ้น อันมาจากสาเหตุต่างๆนาๆ มีเหตุมีผลบ้าง ไร้สาระไม่เป็นเหตุเป็นผล เข้าใจผิด เข้าใจคลาดเคลื่อน เฮตามเพื่อนบ้าง ก็มี #มิตรสหายอีกท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ประมาณว่า วงการมะเดื่อฝรั่งก็เหมือนสังคมมนุษย์ข้างนอก มีครบทุกอย่าง ประมาณว่าถ้ามีแต่ความดีงาม แสดงว่าเสแสร้งแกล้งทำล่ะ เพราะไม่มีสังคมมนุษย์ที่ใหนไล่มาตั้งแต่สังคมมนุษย์ยุคบรรพกาล ที่เริ่ม มีการใช้กิ่งไม้ ก้อนหินเป็นเครื่องมือจนถึงปัจจุบัน ที่เป็นแบบนั้น อันที่จริงถ้ามันสงบดีงามตามจินตนาการแบบนั้น โลกนี้นี้คงเหงาแย่ มองไปทางใหน มีแต่รอยยิ้ม ระเบียบเรียบร้อยไปเสียหมด เดินเข้าแถวเรียงกันเป็นตับซ้ายหันขวาหันพร้อมเพรียงอย่างกับหุ่นยนต์ ใต้ร่มไม้ก็มีคนนั่งวิปัสสนาหาทางกลับสวรรค์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น